JustInMind Rants

ปกติแล้วผมเองมักจะร่างโมเดลต่าง ๆ ด้วยกระดาษพร้อมกับไอเดียต่าง ๆ ที่อยู่ในหัวทั้งหมด

แต่ทว่า กลับมีงานหนึ่งที่ต้องการใช้งานด้านการทำโปรโตไทป์ของแอปจริง ๆ ขึ้นมา ซึ่งใช้ชื่อโปรเจกต์ว่า CookItUp และให้ทำบน prototyping tool ซึ่งสำหรับ Windows แล้ว โปรแกรมเดียวที่ดูแล้วใช้งานได้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้น JustInMind (เพราะตัวอื่นอย่าง Sketch เองก็มีแค่บน Mac เท่านั้น และก็คงไร้วี่แววว่าจะมาบน Windows เลยแม้แต่น้อย)

จริง ๆ ผมเองก็รู้จักกับเจ้า JustInMind มาสักพักแล้ว และลงไว้สำหรับโปรเจกต์ก่อนหน้านี้แล้ว (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ซะทีจน trial ก็หมดเกลี้ยงเรียบร้อย) และเมื่อมางานคราวนี้ก็ถือโอกาสปัดฝุ่นโปรแกรมนี้มาใช้งานจริง ๆ จัง ๆ ซะที

ใช้ไปแรก ๆ ก็รู้สึก “โอเค” อยู่ระดับหนึ่ง แต่พอใช้ไปใช้มา เริ่มรู้สึกไม่โอเค และรู้สึกว่ามันไม่ “just in mind” ตามชื่อเท่าไรเลย ส่วนเหตุผลต่าง ๆ มีดังนี้

ไม่รองรับหน้าจอความละเอียดสูง

JustInMind

อันนี้เป็นปัญหาที่ทำให้ผมปวดหัวที่สุดเมื่อใช้งาน JustInMind เพราะตัวอักษรก็เล็ก โปรแกรมก็ไม่สเกลสักที ลองใช้โค้ดสเกลแล้วก็ใช้ไม่ได้สักที ยกเว้นตัวเดียวที่สเกลได้คือตัว simulator ซึ่งก็ไม่มีผลอยู่ดีเพราะว่ามันใช้เฟรมเวิร์กจาก Chrome Portable

แน่นอนว่ามีผู้ใช้หลายคนบ่นเหมือนกัน แล้วทางแก้ละ? ให้ส่งอีเมล์ไปขอเวอร์ชั่นสเกลหน้าจอมาใช้แก้ขัดแทน ประเด็นคือ ทำไมพี่ไม่ยัดโค้ดตรงนี้มาใน current branch เลยล่ะพี่ ==”

ทำ UI คล้ายกับ Photoshop แต่ใช้งานแบบ Photoshop ที่คุ้นเคยไม่ได้

clone

อันนี้เป็นสิ่งที่ผมขัดใจเอามาก ๆ เพราะตัว user interface ของส่วนประกอบต่าง ๆ ในโปรแกรม ล้วนออกแบบมาให้คล้ายกับ Adobe Photoshop มาซะอย่างมาก (เรียกว่าก็อบมาเลยดีกว่ามั้ง?)

ทว่า ดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับ Photoshop แบบนี้ กลับไม่ได้พ่วง user experience ในการใช้งานโปรแกรมที่เหมือนกับต้นฉบับมาเลยแม้แต่นิดเดียว

ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่าง ฟังก์ชั่นเบสิก เช่น double-click บน element ต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนชื่อ หรือแม้แต่ tool สำหรับการสร้างโฟลเดอร์เปล่า ๆ แบบที่ใช้ใน Photoshop ทั้ง 2 อันนี้ต่างก็ไม่มีใน JustInMind เลยแม้แต่น้อย

User Experience ของ JustInMind ในด้านการแก้ไขต่าง ๆ มันเลวร้าย แม้จะไม่มาก แต่ก็กระทบความอยากในการใช้งาน เพราะเท่าที่ใช้มา มันไม่ค่อยโอเคอย่างที่คิดไว้

และอีกอย่างคือ มันไม่ฟรี (หรือถ้าฟรี ก็ตัดฟังก์ชั่นหลายอย่างออกไป) คือถ้าหากมันฟรี ผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่มันมีรุ่นเสียเงินด้วย ซอฟต์แวร์น่าจะทำมาดีกว่านี้สิครับพี่

ไม่คิดปรับปรุงให้ทันกระแสใหม่

WTF

ครั้งแรกที่เปิด JustInMind มาก็รู้สึกว่า มันโอเคนิ มี prototype ให้เลือกมากมายตามขนาดหน้าจอ มีทั้ง Web, iPhone 6/6s, iPhone 6/6s Plus, iPad, Android Phone, Android Tablet, Custom จนกระทั่งไปสะดุดตรงที่ “Google Glass”

คือพี่ครับ Google Glass มันตายแล้ว และที่ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ ดันไม่มีตัวหน้าจอที่เหมาะกับ Android Wear, Apple Watch สักนิดนึงเลย คือเรื่อง Windows 10, Windows Phone อันนี้พอเข้าใจ แต่พี่ครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ทำไมยังคงเทคโนโลยีเก่าฉิบหายอย่าง Google Glass อีกหรอครับ?

Bug, Bug, Bug, และก็ Bug

มีหลายครั้งที่ผมใช้งานไปสักพักหนึ่ง แล้วระหว่างจะกดเรียกฟังก์ชั่นหนึ่งขึ้นมา ปรากฎว่า โปรแกรมดันขึ้นว่า มีปัญหา แล้วก็ขึ้นให้กดเซฟ แล้วก็ปิดโปรแกรมหนีโดยไม่กล่าวร่ำลาสักคำ

มันน่าเศร้าที่ว่า แม้จะอัปเดตออกมา รุ่นล่าสุดก็แล้ว แต่โปรแกรมก็ยังคงบั๊กเหมือนเดิม ข้อดีนิด ๆ คือ มันยังเปิดโอกาสให้เราเซฟงานก่อนได้ ไม่ใช่ว่าเราต้องมานั่ง recover งานใหม่ มันไม่ใช่เรื่องเท่าไรนัก

แต่ก็นั่นแหละครับ มันไม่ได้เก็บ error log ส่งไปให้นักพัฒนา ซึ่งเมื่อไม่ทำระบบเช็กล็อกแบบนี้ ปัญหามันก็ไม่หายสิเพ่ ==”

จริง ๆ มันมีปัญหาหยุมหยิมหลาย ๆ อย่างอีกมากมาย เช่น เรื่องของการรองรับบนมือถือ, แอปบนมือถือและแท็บเล็ต, ตัวอย่าง prototype, ภาษาที่ใช้ในแต่ละ element ที่เข้าใจยาก จนต้องคอยแก้ทีละตัว ใช้แล้วมันมีปัญหาสารพัดครับ

สุดท้าย ผมคงจะฝากชีวิตไว้กับ JustInMind งานนี้ (และอาจจะมีงานต่อไป) แต่ถ้าหาก Facebook ออก Origami for Windows เมื่อไร ผมจะย้ายไปแล้วไม่หวนกลับมาอีกเลย เพราะที่ผมเจอมานี้นั้น มันเป็นประสบการณ์ซอฟต์แวร์ด้าน prototyping ที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยใช้มา

ลาก่อน JustInMind หวังว่าคราวหน้าคงไม่ต้องมาเจอกันอีก

Discover more from Be1con's Blog

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading