เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยออกนโยบายให้เปลี่ยนบัตรเดบิต/เอทีเอ็มแบบแถบแม่เหล็ก ให้เป็นบัตรที่มีชิปการ์ดทุกใบ เพื่อเป็นการป้องกันการยกเลิกใช้บัตรแบบแถบแม่เหล็กที่มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ในฐานคนหนึ่งที่ใช้บัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กของธนาคารไทยพาณิชย์ (ที่ใช้มาอย่างเนิ่นนานตั้งแต่ 5-6 ปีก่อน เพราะบัตรอายุ 10 ปี) ผมเลยตัดสินใจที่จะเปลี่ยนบัตรเดบิตใบนั้นเป็นแบบใหม่
สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้เลยถึงการเปลี่ยนบัตรแบบใหม่ที่ไม่ค่อยโอเคคือ ผมอยากจะเปลี่ยนบัตรใบนั้น เป็นบัตรแบบ SCB M Debit Card (เนื่องจากลายบัตรสวยกว่ามาก แถมเก็บแต้ม M Card ได้) แต่สุดท้ายทางธนาคารบอกเปลี่ยนไม่ได้ เลยยอมเปลี่ยนเป็นแบบปกติ (อย่างที่เห็นในหน้าปก) เพราะว่าต้องการใช้บัตรเดบิตต่อในการซื้อสินค้าบางอย่าง
จุดที่แตกต่างจากบัตรเดบิตที่เคยใช้ก็คือ บัตรใบนี้เป็นบัตรที่ใช้ระบบ PromptCard ของ ITMX ที่ร่วมกับ Mastercard ซึ่งมีข้อดี (ที่ผมชอบมาก ๆ) คือ ใช้การยืนยันตัวตนแบบ Chip + PIN ได้
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ไม่โอเคกับบัตรนี้เลย มีหลายประเด็น ซึ่งจะขอกล่าวไว้ดังนี้
ดีไซน์บัตรและโลโก้ PromptCard ไม่สวย
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า บัตร SCB M Debit (อันแรก) ออกแบบมาสวยงามมาก ทั้งสี สไตล์ และการออกแบบที่ดูทันสมัยมาก ๆ แถมยังใช้บัตรแบบ contactless ได้ด้วย ขณะที่บัตรที่มีอยู่ (อันที่ 2) เองก็พอเข้าใจอยู่ว่าต้องการ CI ของธนาคารชัดเจน แต่สีม่วงกับตัวอักษรแบบนี้เนี่ยนะ
ส่วนตัวคิดว่าบัตรใบนั้นดีไซน์แย่มาก แถมดันเจอโลโก้ PromptCard ที่หลุดมาช่วงยุค ’90-’00 ยังไงก็ไม่รู้
เรื่องการออกแบบ ส่วนตัวคิดว่า ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ nitpick มาก ๆ เมื่อเทียบกับประเด็นถัดมาที่เป็นปัญหากับส่วนตัวสุด ๆ
ใช้จ่ายออนไลน์ในต่างประเทศโคตรลำบาก!
เคยไหมครับ ที่ต้องนำบัตรไปใช้จ่ายออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, eBay, Spotify หรือแม้แต่ Netflix แล้วพบว่าบัตรเดบิตที่ใช้อยู่ใช้จ่ายออนไลน์ไม่ได้!
นั่นคือสิ่งที่ผมเจอกับบัตร PromptCard!
ตามปกติแล้ว บัตรเดบิตของ SCB นั้น ก่อนที่จะใช้จ่ายออนไลน์ จะต้องไป activate การใช้จ่ายออนไลน์ในหน้าเว็บไซต์ของ SCB เสียก่อน ซึ่งผมทำอันนี้ตั้งแต่เปลี่ยนบัตรมา
ซึ่งหลังจาก activate บัตรเรียบร้อย ผมก็เปลี่ยนการจ่ายเงินไปในที่ต่าง ๆ ที่ใช้บัตรใบเดิมอยู่ ตั้งแต่ PayPal, Lazada, Amazon, Prime Video, AWS หรือแม้แต่ Microsoft Store
เชื่อไหมว่า ในนี้ มีเพียงแค่ 3 รายที่สามารถเชื่อมบัตรได้อย่างสมบูรณ์ คือ PayPal, Lazada และ Spotify (ผ่าน PayPal) ที่เหลือ ใช้ไม่ได้เลย!
ทีนี้ ความซวยของผมคือ ผมต้องการเชื่อมบัตรกับ AWS เพื่อใช้จ่ายค่า AWS S3 ที่ยังคงเปิดบักเก็ตอยู่ (เดือนละไม่กี่บาท) ผลคือ บัตรเชื่อมได้ แต่ระบบไม่หักเงิน!
สืบไปสืบมา พบว่า ไอ้บ้า บัตรมันไม่เชื่อมอะไรเลย! ซึ่งพอเปลี่ยนไปใช้บัตรออนไลน์ของกสิกร (K-Web Shopping Card) พบว่าสามารถหักได้ตามปกติ ก็หยวน ๆ ไปก่อน แต่เดือนถัดมาก็เป็นแบบเดิม
สุดท้าย ปัญหามันดันไปอยู่ที่ PromptCard ที่ไม่เปิดให้ใช้จ่ายนอกประเทศได้เลย แล้วอย่างนี้จะมีบัตรเดบิตที่ใช้จ่ายออนไลน์ได้ไปทำบ้าอะไรล่ะครับ ในเมื่อใช้จ่ายออนไลน์ในต่างประเทศไม่ได้เลย
และเคสนี้ ไม่ได้เกิดที่ผมคนเดียว แต่ยังมีผู้ร่วมชะตากรรมอีกหลายคนที่เจอเหตุการณ์นี้
เอาเป็นว่า ถ้าบัตรใบนี้หมดอายุเมื่อไร จะเปลี่ยนไปใช้ SCB M Debit ทันที เพราะว่าอย่างน้อยก็เป็นบัตร Visa (ที่ไม่มี PromptCard) แถมบัตรยังสวย และมี contactless อีก
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า บัตร PromptCard กากครับ เลี่ยงได้เลี่ยง